7 วิธีให้สาวๆเลิกนิสัยขิ้โกหก แฟนกล้าเผชิญความจริง เป็นคนซื่อสัตย์กับคู่รัก
เวลาคู่รักคบกัน สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อต้องห้าม ไม่ควรทำเด็ดขาดคือ ‘การโกหก’ เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ
ก็เหมือนแก้วบางๆ ใบหนึ่ง การโกหกแค่ครั้งเดียวก็เหมือน ใช้ค้อนทุบแก้วนั้นจนเกิดรอยร้าว
อาจให้อภัยได้ แต่กลับไปเชื่อสนิทใจแบบเดิมได้ยาก เหมือนที่แก้วนั้นจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก
ถ้าไม่อยากให้วันหนึ่งนิสัยขิ้โกห กของเธอจะทำให้ความรักต้องดิ่งลงเหว
ลองมาอ่ าน 7 วิธีเลิกนิสัยโกหกแฟน กล้าเผชิญปัญหา เป็นคนซื่อสั ตย์ต่อแฟนให้มากขึ้น
เพื่อให้รักครั้งนี้มั่นคง และมีความสุขแบบไม่ต้องมีชนัก ติดหลังตลอดเวลานะคะ
1. เชื่อใจ และเชื่อมั่นในตัวคนรักมากกว่านี้
สาเหตุหนึ่งที่สาวๆ หลายคนไม่กล้า หรือไม่ยอมบอกความจริงกับแฟนเมื่อเกิดปัญหา
เพราะไม่ได้เชื่อมั่นในศักยภา พหรือนิสัยของคนรักมากพอ
ว่าพูดออกไปแล้วเขาจะรับความจริงได้มากแค่ไหน เขาจะหนีไป อาละวาด
ด่าทอด้วยถ้ อยคำที่รุนแรง ทำร้ ายข้าวของ หรือถึงขั้นทำร้ ายเธอหรือเปล่า
เช่น เขาซื้อของมาฝาก หรือเขาพาไปเจอพ่อแม่ ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ ว่าไม่ชอบ,
เขามาจีบก็โกหกอดีตที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าบอกความจริงไปเขาจะถอย เป็นต้น
การตอบทุกอย่างให้เป็นทางบวก ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป อย่างแรกคือการหนีปัญหา
แต่ต้องหาวิธีสร้างสะพาน เพื่อข้ามไปอีกฟากต่างหาก นั่นหมายถึงเธอต้อง
‘เชื่อและศรัทธา’ ในตัวอีกฝ่ายไว้ก่อนว่า เขาจะรับฟังและไม่ตัดสินไปก่อน
ซึ่งถ้าเขาเป็นแบบนั้น ก็แปลว่าเธอเลือกถูกคน แต่ถ้าไม่ก็โชคดีแล้ว ที่เขาหลุดจากชีวิตเธอไป แค่นั้นเอง
2. ทำอะไรผิดมาก็ตาม นับ 1-5 แล้วบอกความจริงไปเลย
สำหรับบางคน ตอนนี้สายเกินไปที่จะทำตัวขาวสะอาด เพราะมีอดีตที่ผ่านมา
ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังตัดสินใจว่า
ควรบอกความจริงนี้กับแฟนหรือคนคุยหรือไม่ อาจจะอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มจีบกัน
หรือกำลังตัดสินใจทำเรื่องใหญ่ด้วยกันบางอย่าง ซึ่งอดีตนี้อาจทำให้เขาเปลี่ยนความคิดได้เลย
( ซึ่งไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนในทางดีหรือร้ าย ) เธออาจลังเล ไม่รู้จะทำยังไงดี
ถ้าบอกก็กลัวต้องเลิกกัน แต่ถ้าไม่บอกก็ต้องทนกับการหวาดระแวงไปทั้งชีวิต
อะไรที่ต้องแอบซ่อน แน่นอนว่า 100% มักไม่ใช่เรื่องดี เธอไม่อยากให้เขาโกหกเธอฉันใด
เขาก็ไม่อยากให้เธอ โกหกเขาเช่นกัน ดังนั้นอย่ากลัวที่จะนับ 1-5 ในใจช้าๆ
และตัดสินใจบอกไปให้จบ ต้องยอมรับว่าเอฟเฟกต์ที่ตามมา คงไม่ใช่การยิ้มรับทุกคู่แน่ๆ
แต่เธอก็ได้ยอมรับตัวตน และความผิดพลาดของตนเอง
3. เป็นคนที่แฟนก็’เชื่อใจได้’เช่นกัน
บางครั้งที่เธอต้องโก หก ไม่ยอมบอกความจริงแฟน ส่วนหนึ่งก็เพราะข้างในใจลึกๆ
ไม่รู้สึกว่าตัวเองดีพอ หรือเป็นคนที่ใครจะเชื่อใจได้ขนาดนั้น ต้องสร้างหน้าฉ ากว่าเป็นคนดี
คนเก่ง คนสวย ทัศนคติดีมองโลกในแง่บวก เพื่อเป็นเกร าะป้องกันคนนินทา กันแฟนไม่รัก
ทั้งที่ภายในนั้น มีแต่เรื่องแย่มากมายที่เธอแอบทำผิดและสะสมเอาไว้
นับวันเก ราะนั้นก็ยิ่งหนักขึ้น แบกไม่ไหวมากขึ้นทุกที สักวันมันอาจพังครื นและล้มใส่เธอเองก็ได้
ถ้ารู้ว่าตัวเองมีกิ๊กหนุ่ม หรือเอาเงินไปเ ปย์ไอดอลที่ชอบจนหมดตัว จะเหนื่ อยในการปิดบัง
โกหกไม่เนียน ทำให้ตัวเองดูเป็นคนมีพิรุ ธ ก็อย่าทำสิ่งนั้นเสียตั้งแต่แรก
4. ฝึกการสื่อสารแบบ ‘เปิดใจคุยกันตรงๆ’ ไม่อ้อม ไม่ผ่านตัวกลาง
เชื่อไหมว่าหลายคู่โดยเฉพาะคู่รักชาวเอเชี ย ที่เรามักถูกสอนมา กับวัฒนธรรม
ห้ามบอกความรู้สึกตรงๆ เพราะหย าบคาย ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น และภาพลักษณ์ต้องดูดีอยู่เสมอ
สิ่งหนึ่งที่ฝ รั่งทำเป็นเรื่องปกติ แต่ชาวเอเชี ยยังต้องสอนกันอีกเยอะคือ ‘การคุยเปิดใจตรงๆ’
ไม่ต้องผ่านตัวกลาง ไม่ต้องมีผู้ใหญ่ ไม่ต้องอ้อมค้อม หาวันเวลาที่ว่างตรงกัน
นั่งตรงข้ามกันแล้วคุยให้รู้เรื่องตรงนั้นเลย สำหรับคนโบร าณอาจจะดูก้าวร้าว
ดูไม่สมกับเป็นผู้หญิง แต่การปัดขย ะสุมเก็บไว้ใต้พร มเพื่อหนีปัญหาก็ไม่ช่วยอะไรเช่นกัน
สื่อสารกันต่อหน้าเถอะ ง่ายที่สุดแล้ว เค ลียร์เร็ว จบไว และทำให้สบายใจที่จะอยู่ด้วยกันมากขึ้นอีกด้วย
5. ให้คุณค่า รักแฟนให้มากขึ้น ถ้าค้นพบว่าคนนี้ ‘ไม่ใช่’ ก็รีบบอกเขา
ข้อนี้อาจจะสะเทือนใจ ( หรือถึงขั้นรับไม่ได้ ) สำหรับสาวๆหลายคน แต่เป็นเรื่องจริงที่ว่า
บางคนโกหกแฟนเพราะเหตุผลง่ายๆ ว่า ‘ ไม่ได้รักแฟนขนาดนั้น ‘ คือรู้อยู่แล้วแหละว่า
บอกไปต้องระเบิ ดลง ต้องเคลี ยร์กันย าว แต่รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีค่าพอจะให้ปรับความเข้าใจ
ขนาดนั้น คือไม่ได้สำคัญพอที่เธอจะต้องมานั่งเสวนาด้วยนานๆ
เลยบอกเรื่องโกหก ให้มันพ้นตัวไปวันๆ บางทีก็ไม่ได้คิดจะลงหลัก ปักฐานกับคนนี้อยู่แล้วด้วย
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะหาคนรักที่รักเขาจริงๆ ไม่ใช่คบเผื่อเลือกแบบชั่ วคราว
หากไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก ก็เหมือนเธอไปหลอกให้เขามารัก ถ้าไม่สามารถรัก
และให้ค่าเขามากพอในฐานะคู่ชีวิตได้ ก็ให้โอกาสเขาไปเจอคนใหม่จะดีกว่า
6. เห็นใจ เมตตาแฟนของเธอสักนิด อย่าหลอกเขาด้วยคำโกหก
หนึ่งในเหตุผลที่คนคนหนึ่ง กล้าที่จะโกหก ไม่ยอมพูดความจริงกับคนที่รักได้ก็เพราะ ‘
ไม่ได้สนใจความรู้สึกอีกฝ่ายขนาดนั้น ‘งงไหมบางคนอาจเถียงว่าเพราะใส่ใจ
ความรู้สึกสิถึงได้โกหกกลัวเขาโกร ธหรือเสียใจ แต่ลองคิดมุมกลับว่าถ้าเธอโดนโกหกบ้าง
มารู้ความจริง ทีหลังเธอจะรู้สึกยังไง ที่กลัวเขาเสียใจเพราะกลัวว่า ตัวเองจะเสียหน้าไปด้วยหรือเปล่า?
สุดท้ายที่โกหกก็เพราะห่วงตัวเองอยู่ดีไม่ใช่เหรอ? ที่หนีปัญหา เพราะผลประโยชน์ของใครกันแน่ ของเธอหรือของเขา คิดดูให้ดีๆ ค่ะ
ถ้าไม่อยากถูกเปิดโปงในอนาค ต และโดนแฟนมองว่าเป็นคนทรย ศ ไม่ให้เกี ยรติกัน
ก็บอกความจริงเสียให้จบ
7. รู้จักแยกแยะระหว่าง โกหกในเรื่องดี กับโกหกในเรื่องแย่ๆ
อันที่จริงเรื่องโกหกก็ไม่ใช่เรื่องแย่ๆ ทุกเรื่องเสมอไป มันก็ยังมีข้อยกเว้นบางอย่าง ที่เรียกว่า
โกหกขาว ด้วยเช่นกัน ในที่นี้คือการโกหก ในเรื่องดีที่ทำให้อีกฝ่ายสบายใจ เช่น รู้ว่าแฟน
เป็นโรคหัวใจรุนแรง ถ้ารับรู้สิ่งที่แ ย่มากๆ ฉับพลันอาจทำให้เขาช็ อก ต้องหามไปไ อซี ยูได้
จึงค่อยๆ ตะล่อมพูดเรื่องอื่น ไปก่อนให้เขาทำใจได้ทีละนิด, ให้กำลังใจว่าเขาทำอาหารอร่อย
ทั้งที่ฝีมือจริงๆ ไม่ได้เรื่อง อันนี้ก็ถือว่าเป็นโกห กขาวเช่นกัน
ต้องมองบริบทเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าการโกหกนั้น ทำให้เขามีความสุข สบายใจ
ไม่มีผลกระทบแย่ๆ ตามมาภายหลังก็ถือว่ายอมรับได้ แต่ทุกอย่างมีสอง ด้านเสมอ
เช่น ถ้าเขาคิดจะเอาดีด้านอาหาร พอเธอชมแล้วก็ดีใจ รีบเปิดธุรกิจร้านอาหาร
สุดท้ายเจ๊งเพราะไม่มีลูกค้า ก็อาจเป็นโกหกที่ผิดบ าปโดยไม่ตั้งใจทันที หรือถ้าเขาคิดว่าดีแล้ว
ไม่ยอมปรับปรุงฝีมือ เธอก็จะได้กินอาหารไม่อร่อยซ้ำๆ ซากๆ อยู่ดี
ดังนั้นก็ต้องชั่ งน้ำหนั กดูข้อดีข้อเสียที่จะตามมา ถ้าจะโกหกข าวด้วยนะคะ