4 สถานการณ์พร้อมวิธีเดินออกมา เมื่อต้องตกเป็นมือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ
1.ความเหงาชักพา
คนที่มีแฟนหรือมีสามีภรรย าอยู่แล้ว มักก้าวสู่ความสัมพันธ์ลับๆ
เพราะก่อนหน้า มีปัญหากับคู่รักตัวเอง เช่น หมดรักแฟน
รู้สึกเบื่ อหน่ ายท้อใจกับแฟน หรือรู้สึกว่าความคิดตัวเองกับแฟน
ไม่ตรงกันสักเรื่อง เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ก่อให้เกิดความเหินห่าง
ความเหงาเปล่าเปลี่ยวในใจ จนกระทั่งโชคชะตานำพาให้พวกเขา
เจอหญิงชายคนอื่นที่บังเอิญเข้ากันได้ดี คุยแล้วสนุก รู้สึกตัวเองมีคุณค่า
รู้สึกว่าอีกฝ่ายเข้าใจตัวเองได้ดีกว่าแฟนหรือสามีภรรย า
2.เริ่มต้นจากว่าสองฝ่ายต่างไม่คิดอะไร
เหตุผลหนึ่ง ที่ฝั่งคนเป็นมือที่สาม ยอมพูดคุยกับคนที่มีคนรักแล้ว
เป็นเพราะทุกอย่างมันเริ่มต้น ด้วยการไม่คิดอะไรมาก่อน
ยกตัวอย่างเช่น คนที่เรารู้จักคนหนึ่ง เขาแต่งงานและมีปัญหา
กับภรรย ามาตลอด จนวันหนึ่งเขาบังเอิญเจอเพื่อนผู้หญิง
สมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันนานหลายสิบปี
พอเจอกันก็เลยถามสารทุ กข์สุกดิ บโดยไม่ได้คิดว่าจะไปจีบอะไร
เพราะตัวเองก็มีภรรย าอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่าพอคุยกันเกิดรู้สึกถูกคอ
ต่อมาก็คุยกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
3.มักคิดว่าควบคุมตัวเองอยู่
อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่า หลายคนที่เป็นมือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ
มักไม่คาดคิดมาก่อนว่า วันหนึ่งตัวเองจะไปแย่งแฟนคนอื่น
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาถลำลึกจนตกอยู่ในสถานะนี้
เป็นเพราะพวกเขาประมาทความคิดตัวเองจนเกินไป
พวกเขาเริ่มต้นจากการเชื่อว่า พวกเขาสามารถควบคุมตัวเองได้
โดยไม่ทำให้ความสัมพันธ์ ไปไกลจนถึงขั้นผิดศีลธรรม
แต่ปัญหาคือ พวกเขามักลืมไปว่า คนเราไม่ได้ใช้เหตุผล
ในการดำเนินชีวิตร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แทบเป็นเรื่องอารมณ์
ที่เข้ามาควบคุมการกระทำ ไม่งั้นเราคงไม่เห็น ผิพนั น
คนบ้าซื้อของ หรือคนที่หลงผิดทำอะไรแย่ๆ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี
4.ยกเหตุผล มาทำให้ตัวเองสบายใจ
ไม่มีใครอย ากยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี สิ่งที่คนเหล่านี้
มักทำต่อมาก็คือ การหาเหตุผลดีๆ มาทำให้ตัวเองสบายใจหรือรู้สึก
ผิดน้อยลง เช่น บอกตัวเองว่า สิ่งที่ทำไปก็เพราะอย ากเป็นที่พักใจ
ให้อีกฝ่ายที่เจ็ บปว ดจากสามีภรรย ามา หรือการพร่ำบอกตัวเองว่า
เราไม่เคยคิดจะไปพลั ดพร ากสามีภรรย าหรือลูกของเขา
เราไม่ได้อย ากได้เขามาเป็นของเรา เราแค่อย ากมีเขาบางเวลาในจุดที่เป็นอยู่เท่านั้นพอ
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านี่ คือการหลอกตัวเองนั่นเอง โดยเหตุผลต่างๆ ที่ยกมานั้น
ไม่ใช่เหตุผล เพราะมันคือเหตุผลหรอก แต่เป็นข้ออ้างที่ทำให้พวกเขายังอยู่
ในความสัมพันธ์นั้นต่อไป ได้โดยไม่ ท ร ม า น ใจมากนัก
แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือการขุดห ลุมฝั งตัวเองลึกลงไปเรื่อยๆ
จนย ากเกินกว่าจะปีนออกมา พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น มือที่สาม แบบเต็มใจโดยสมบูรณ์
สำหรับการจะออกมาจากปัญหานี้ได้
อย่างแรก คือ ต้องยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมาก่อน
ว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกและเหตุผลดีๆ ที่บอกตัวเองมันคือคำโกหก
อย่างที่สอง คือ มองให้เห็นว่าสิ่งที่ทำเป็น ความสุขปลอม
เพราะถ้าสุขจริง จะไม่รู้สึกตะขิ ดตะขว งกวนใจอย่างนั้นหรอก
อย่างที่สาม คือ บังคับใจตัวเองสร้างพฤติกรร มใหม่
ที่ตั ดขาดจากคนนั้นอย่างเด็ ดขาด เพราะการปล่อยให้ตัวเอง
ยังไปเจอหรือคุยกับคนนั้น คือการสร้างความคุ้นเคยในการมีเขาในชีวิต
และอย่างสุดท้าย คือ ต้องมีความหวังและภาคภูมิใจในตัวเอง
เพราะเหตุผลที่หลายคน ยอมลดคุณค่าตัวเองไปทำอะไรที่ไม่ดี
เป็นเพราะยังนับถือตัวเองไม่พอ
ฉะนั้น ต้องเรียกความภูมิใจในตัวเองกลับคืนมา และมีหวังอยู่เสมอ
ว่าเราคู่ควรกับสิ่งที่ดีและสุขอย่างแท้จริง
ที่สำคัญ เรากำลังช่วยให้ตัวเองหลุดจากการทำร้ ายตัวเอง
และทำร้ ายคนอื่น คนเราทำผิดกันได้แต่เมื่อรู้ตัวว่าผิด ก็ควรทำให้ถูกจริงไหม?