ชีวิตก็เท่านี้เอง วันที่เราไม่เหลืออะไรจะเห็นอะไรชัดเจนที่สุด

นี่อาจเป็นเหตุผล ว่าทำไมเราต้อง อยู่คนเดียวให้เป็น

คนที่ยังมีครบ แทบจะไม่รู้สึกอะไร กับประโยคนี้

แต่คนที่เคยก้าวผ่าน ว่าชีวิตนี้จากเคยมี เคยได้เคยเป็น

แล้ววันหนึ่ง แทบไม่เหลืออะไรสักอย่าง แม้กระทั่ง

กำลังใจให้ตัวเอง มันเศร้ามากนะ

ความรู้สึกโดดเดี่ยว สิ้นหวัง ท้อแท้ หดหู่

เศร้า เหงา เซ็ง หมดอาลัยด ายอยากนี่

เหลียวหาใครสักคนไม่มี เป็นความรู้สึกแย่

ที่อยากจะบรรย ายมันออกมาได้หมด

สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ใช้สิทธิ์พิเศษ แลกมาแต่ทุกๆ คนมีสิทธิ์

ที่จะได้เท่าเทียมกัน แหละ คือเหตุผล ว่าทำไมเราต้อง

อยู่คนเดียวให้เป็น ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองให้ได้

และรักตัวเองให้มากพอ แม้วันหนึ่งไม่มีใครรัก

เรายังเหลือตัวเรา ที่ยังรักและต้องการตัวเราที่สุด

เพราะไม่ว่าชีวิต จะเจอเรื่องราว ที่ก้าวผ่านย ากที่สุด

สุดท้ายก็มีแค่ตัวเรา ที่ต้องผ่านไปให้ได้ แล้วเมื่อผ่านไปได้

คุณจะรู้ว่าคนที่ยังอยู่ สำคัญมากกว่า คนที่หายไปแน่นอน

แล้วเมื่อคนที่หายไป อยากเดินกลับมาอีกครั้ง เขาจะทำให้เรารู้ว่า

ชีวิตเรา ไม่จำเป็นต้องมี(เขาเหล่านั้น)ก็ได้

จากมิตรสนิท จะแปลเปลี่ยนเป็นศั ตรู

จากคนที่เอ็นดู เราจะเปลี่ยนเป็นคนเจ้าหนี้

ที่ตามจองล้าง จองผล าญไม่เลิก

จากเพื่อนสนิท จะเปลี่ยนเป็นคนที่ เฉดหัวเราทิ้ง

ในวันที่เรา ไม่มีผลประโยชน์ให้ตักตวง

จากคนเคยรัก จะเปลี่ยนเป็นคนเจ้ากร รมนายเวร

ติ ดตามชีวิตเราไม่เลิก คนบางคนยิ่งเราให้ค่ามากเท่าไหร่

เราย่อมเจ็ บป วดมากเท่านั้น แต่กับคนบางคนเขาไม่ให้ค่าเลย

ไม่เห็นคุณค่าเท่าไหร่ แค่กลับคือคน ที่อยู่เคียงข้างเราไม่เคย

หนีหายไปไหน แม้ใครๆ จะทอดทิ้งเราไปจนหมดสิ้น

ลองล้มดูสิ แล้วจะรู้ว่าใครเป็นมิตรแท้หรือมิตรเทียม

ลองไม่มีดูสิ แล้วจะรู้ว่าใครรักจริง หรือแกล้งรัก

ลองหมดผลประโยชน์ดูสิ แล้วจะพบกับคำว่า “ไม่เหลือใคร”

ชีวิตก็เท่านี้เอง