การเอาตัวรอดในที่ทำงาน อย่างคนฉลาด

1.การแต่งตัว

เดี๋ยวนี้คนแต่งตัวเป็น มักจะได้รับการเชิดชู

มากกว่าคนที่แต่งตัวไม่ได้เรื่อง แม้หน้าไม่ให้

แต่แต่งตัวเป็น มีสไตล์เป็นของตัวเอง คือผ่านค่ะ

แม้ไม่มีเ งินสอยแบรนด์เนมมาใช้ ก็ต้องมีสไตล์

เป็นของตัวเอง เพื่อสร้างการจดจำและสร้างภาพลักษณ์

ที่ดีให้กับตัวเอง

2.ขยันให้ถูกจุด

คนขยันมักไม่เป็นที่มองเห็นของเจ้านาย ถึงมีประโยคที่ว่า

“ทำงานให้ต า ย ก็สู้คน เลียแข้งขาเจ้านายไม่ได้”

และทุกบริษัท ไม่มีใครไม่ชอบคนขยัน แต่เมื่อเราทำแล้ว

ก็ต้องพูด รู้จักแสดงผลงานของตัวเองบ้าง ไม่ใช่

ก้มหน้าก้มตาทำ จนคนอื่นๆ ขโมยผลงานไป เราก็ยัง

นิ่งเงียบเป็นทองไม่รู้ร้อน นั้นเขาเรียกว่าโ ง่เขลาค่ะ

ไม่อย ากให้เพื่อนร่วมงานสวมเขาบ่อยๆ

จงโขว์ ศักยภาพด้วยการพูดด้วยค่ะ วาทศิ ลป์

คือสิ่งดีงาม ทำเยอะต้องพูดให้เป็นคือชนะเลิศ

3.เข้าสังคม และอย่าสร้างศัตรู

ใครๆก็ว่าสังคมเพื่อนร่วมงาน ป็นสังคมที่น่า

เบื่อหน่าย วันๆไม่ค่อยทำหรอกงาน มาทำงาน

มานั่งนินทาคนอื่นๆ พูดถึงละคร ที่พึ่งดูไป

ร้านอาหารเปิดใหม่ และเที่ยวไหนดี มีชีวิตแบบไฮโซ

แต่เงิ นเดือนโลว์คอร์ท อันนี้เข้าข่าย รสนิยมสูงแต่

รายได้น้อยเมื่อ ต้องเข้าสังคมร่วมกับเพื่อน ร่วมงานแบบนี้

จงปรับตัวค่ะ อย่าแปลกแยก เพราะจะถูกเกลียด โดยฉับพลัน

มีข้อมูลมาคุยแลกเปลี่ยน กับเพื่อนร่วมงานบ้าง

แต่อย่าทิ้งงาน ตรงหน้างาน จบแต่หน้าที่ เข้าสังคม

ยังคงดำเนินต่อไปค่ะ อย่าปลีกวิเวก เพราะเราต้อง

ทำงานร่วมกับคนอื่นๆค่ะ

4.โฟกัสที่งานไม่ใช่คน

เดี๋ยวนะมาทำงานค่ะ ไม่ใช่มานั่งนินทาเจ้านาย

ขา ยเพื่อนร่วมงาน ไม่ต้องค่ะ มาทำงานก็ต้องโฟกัสที่งาน

ทำให้เต็มที่ ถูกมอบหมายงานมาสิบ แต่ทำให้เต็มร้อยไปเลยค่ะ

แล้วผลตอบแทน จะตามมา เคยมีฝรั่งคนหนึ่งถูกเรียก

สัมภาษณ์งาน เมื่อบริษัทเปิดโอกาสให้ถามสิ่งที่เขาถาม

คือบริษัทมีการเจริญเติบโตไปในทิศทางไหน มีอุปกรณ์

และเทคโนโลยีเจิดๆ ให้เขาได้แสดงศักยภาพของตัวเอง

หรือไม่ นโยบายบริษัท จะเป็นยังไง อีก 5 ปีข้างหน้า

เขาต้องรู้ข้อมูล ประกอบเพื่อจะได้งัดศักยภาพของ

ตัวเองมาใช้ให้ถูกจุด หากให้ข้อมูลเขาครบแล้ว

จึงค่อยตกลงเรื่องเ งินเดือน เพราะเขารู้ว่าเขาจะให้อะไร

กับบริษัทได้บ้าง และผลตอบแทนที่จะได้รับต้อง

เหมาะสมเช่นกัน

5.เจ้านาย

คนที่เป็นนายคน มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทั่วโลกคือ

ฉลาดและมีไหวพริบ เขาจะรู้ว่าใครดีแต่ปาก และใครคนจริง

แต่นายส่วนใหญ่ เลือกที่จะไม่ทำลายคนดีแต่ปาก เพราะ

คนเหล่านี้คือหูตาบริษัท ที่พอมีเรื่องเม้าท์ ก็จะถึงหูเจ้านาย

ได้ทันที แบบไม่ต้องสงสัย บางทีมีนายหลายคน

แต่กว่าจะไปถึงนายใหญ่ ืบางทีมนุษย์งานอย่างเราๆ

อาจจะโดนกลบรัศมีหมด อย่ารอให้โดนเรียก จงโชว์ผลงานที่โดดเด่น

แล้วจะเป็นที่รักของนายค่ะ ไม่ใช่อะไร แต่เพราะเราทำงานได้ไม่ใช่ดีแต่ปากไงล่ะ

6.Team work

ทุกๆงานต้องทำ ร่วมกับคนอื่นค่ะ ทำคนเดียวไม่ได้ หากคิดว่า

ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ไม่ได้ก็ลาออกไปเถอะ

อย่าอยู่เป็นภาระของคนอื่นๆ เพราะไม่มีอะไรในโลกนี้

สามารถทำงานคนเดียวได้เสร็จสมบูรณ์ ยกเว้นว่าคุณ

จะเป็นฟ รีแล นซ์ค่ะ ทีมเวิร์คจึงสำคัญมากๆ เพราะเราไม่รู้ว่า

วันหนึ่งเราอาจจะต้อง ขอความช่วยเหลือจากโปรแกรมเมอร์สุดติส

ที่โครตจะกวนโอ้ย หรืออาจจะต้องดิวงานกับครีเอทีฟ

ที่ทำตัวน่าทีบสุดๆ ก็เป็นไปได้ หัดทำตัวเองให้น่ารัก น่าคบหา

เพื่อความอยู่รอดของตัวเราเองในอนาคตนะคะ

7.เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับองค์กร

กว่าจะผ่าฟั นกับคู่แข่งมาได้ จงบอกตัวเองว่าเรา ก็มีของดีไม่น้อย

การจะเข้ามาทำงานในองค์กรหนึ่งๆ ทุกบริษัทก็ต้องผ่านการคัดแล้วคัดอีก

ไม่ใช่ใครก็ได้จริงป่ะ ดังนั้นเมื่อเขาเลือกเราเข้ามาแล้ว จงหมั่นเรียนรู้

และปรับตัวเสีย ไม่ใช่นั่งรอโอกาสเดินเข้ามาหาเรา ควรเดินเข้าไปหาโอกาส

ด้วยการแสดงผลงานชิ้นโบแดง ให้นายเห็นว่าเขาตัดสินใจ

ไม่ผิดที่เลือกเราเข้ามาเคยมี H R บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง

ปฏิเสธรับพนักงานใหม่เข้าทำงาน ด้วยเหตุผลที่ว่า วันสัมภ าษณ์งาน

หนุ่มน้อยคนนั้น ถามถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองจะได้รับ

เมื่อเข้ามาทำงาน แต่ไม่ได้สนใจ เนื้องานที่ตัวเอง

จะทำและได้แสดงศักยภาพของตัวเอง หากทุกคนคิดแบบนี้

ก็จอดไม่ต้องแจวต่อค่ะ เพราะคุณปิดโอกาส

ให้ตัวเองตั้งแต่ประโยคแรก แล้วว่าจะได้รับ OT เท่าไหร่

หากต้องทำงาน ส-อ โอ้ววอย่าขัดขาตัวเองล้มนะจ้ะขอเตือน

ทำได้ 7 ข้อนี้ก็รอดแล้วชีวิตเฟื้องฟูแน่นอน